เมื่อเลิกกินคีโตแล้วต่อด้วย IF (Intimate fasting) คีโตไดอารี่ Ketogenic diet diary

สวัสดีค่ะ หลังจากที่หนที่แล้วเราเขียนเรื่องการเริ่มกินคีโต 20 วันแรกสำหรับคนที่อยากเริ่มต้นแต่ไปไม่ถูก โดยเอาประสบการณ์ของเรามาเล่าให้ฟังกันนะคะ อาจจะมีถูกผิดบ้างแต่มันก็ไม่ได้ยากอย่างที่คิด ลองอ่านแล้วจะรู้ว่ามันเป็นสิ่งที่ต้องทำไปเรียนรู้ไปและสังเกตุร่างกายตัวเองมากๆค่ะ
ลิงค์ไปอ่าน อาทิตย์ที่ 1
ลิงค์ไปอ่าน อาทิตย์ที่ 2
ลิงค์ไปอ่าน อาทิตย์ที่ 3

ทีนี้อีกคำถามนึงตอนที่เราเริ่มกินใหม่ๆก็คือแล้วถ้าเราเลิกกินคีโต เราจะโยโย่ไหม? เราเองก็สงสัย เป็นสิ่งที่หลายคนกังวลมากทีเดียว เพราะการไดเอ็ทแบบอื่นๆที่เราอดมื้อกินมื้อกินอาหารพลังงานต่ำแหละอื่นๆนั้น ก็จะมีบางคนที่เมื่อตบะแตกแล้วก็จะกลับมากินเยอะกว่าเดิมและเผลอๆก็กลับมามีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นด้วย หลายคนที่เราเห็นกินคีโตแล้วไม่กลับออกมาอีกเลยก็มีเยอะ นานๆทีหลุดที่ไม่เกินสองสามวันก็กลับเข้าไปใหม่ละ

ข้อสรุปสั้นๆไว้ตรงนี้เลย ไม่โยโย่นะคะ แต่เมื่อออกคีโตปุ๊ปถ้ากินปกติเลย โดยหลักการนน.ของน้ำจะกลับมาที่ร่างกายแน่นอนเพราะแป้งมันอุ้มน้ำ น่าจะประมาณ 2-3กิโล ดังนั้นถ้าอยากได้นน.เท่าไหร่ตอนกินคีโตลดให้เกินไว้นิดนึง พอกินคาร์บปกติมันก็จะขึ้นมานิดนึงเท่าที่ต้องการพอดี ส่วนหลังจากนั้นก็อยู่ที่การกินของแต่ละคนละ กลับมากินเยอะ cal เกินที่ร่างกายใช้ออก มันก็ต้องขึ้นอยู่แล้วอ่ะ ถ้ากินเท่า cal ที่ใช้ก็จะทรงๆไปเรื่อยๆค่ะ

ทีนี้ตัวเราเองหลังจากกินคีโตไปสองเดือนเราก็ออกจากคีโตค่ะ แปลว่ากลับมากินแป้งและน้ำตาลเหมือนเดิน คิดว่าถ้ากินเหมือนเดิมไม่รอดแน่ต้องกลับไปอ้วนเหมือนเดิม เราก็เลยตัดสินใจลองต่อด้วยการกิน IF หรือ Intimate fasting ทันที ลักษณะของ IF คือการ กิน เว้น กิน ให้เรากินได้แค่ในช่วงเวลาที่กำหนดและนอกเหนือจากเวลานั้นให้ได้แค่ดื่มเครื่องดื่มที่เป็น 0 แคลเท่านั้น (ชา กาแฟดำ น้ำเปล่า) ระยะเวลาก็มีตั้งแต่

• 12/12 กินได้ 12ชม. อด 12 ชม.
• 14/10 กินได้ 10ชม. อด 14 ชม.
• 16/8 กินได้ 8ชม. อด 16 ชม.
• 18/6 กินได้ 6ชม. อด 18 ชม.
• 20/4 กินได้ 4ชม. อด 20 ชม.

รายละเอียดว่า IF ช่วยเรื่องการเผาผลาญยังไงหาอ่านได้ในกูเกิลทั่วไปค่ะ หาง่ายกว่าคีโตเยอะมาก ผลจากการกิน IF ของเราคือทำให้เราสามารถคงน้ำหนักไว้ได้เท่าเดิมเท่าตอนวันที่ออกจากคีโต ทรงๆ หรือก็มีวันที่ลงต่ออีกนิดหน่อยไม่เกินหนึ่งกิโล

เริ่มมาเราก็เริ่มที่ 14/10 ก่อนสักสี่ห้าวัน กินข้าวปลาอาหารเหมือนปกติ แต่สิ่งที่รู้สึกช่วงแรกๆคืออิ่มเร็วมาก น่าจะเป็นกระเพราะมันหดจากตอนกินคีโตอ่ะค่ะ ไม่ค่อยหิวข้าวเท่าไหร่ กินไม่เยอะน้ำหนักก็เลยยังคงลงอีกนิดหน่อย

ต่อมาก็พยายามขยับเป็น 16/8 ช่วงนี้เริ่มหิวละกลับมากินปกติแค่เว้นช่วงไว้ ปรากฎว่านน.มันก็สวิงนะขึ้นๆลงอยู่ที่หนึ่งโล แต่นี่ก็ล่อพิซซ่า พาสต้า เสียเลย แถมบางทีก็แตกด้วยอ่ะคือกินเกินเวลาไปประมาณ 2ชม.ก็มันหิวตอนดึก แหะ แหะ

พอน้ำหนักเริ่มมา เราก็พยายามสลับไปที่ 18/6 บ้าง ก็เหมือนเดิมขึ้นๆลงๆหนึ่งกิโล

แต่ที่แย่คือเรามีชีทเดย์บ่อยมากเนื่องจากมีเพื่อนมาเยี่ยมหาที่เชียงใหม่ทุกอาทิตย์ แล้วเวลามาก็ต้องพากันไปกินและเม้ามอย ทีแรกพยายามชีทแค่อาทิตย์ละวัน แต่มาตอนท้ายๆที่จะครบหนึ่งเดือนมีอีเว้นท์เยอะมาก เลยชีทไปสามวัน ศุกร์​เสาร์ อาทิตย์ นั่นไง!! นน.ดีดขึ้นมากสองสามโลเลยค่ะ แถมมีอาการหิวตลอดเวลาอีก

ข้อเสียของฟาสติ้งคือหิว เวลากินก็จะคิดถึงความอิ่มของคีโต แต่ตอนกินคีโตก็ไม่สามารถกินอะไรก็ได้เหมือนที่ฟาสติ้งทำได้ 555 กินไปสับสันไป คิดถึงสลับๆกัน 555

สรุปได้ว่า IF นั้นได้ผลไม่ทำให้น้ำหนักลดถึงจะกินเยอะ ถ้าไม่มีวันที่หลุด ถ้ากินน้อยนน.ก็จะลง แต่อยู่ที่ความอดทนในการควบคุมตัวเองของเราต่างหากล่ะ

ตอนนี้เรากลับมากินคีโตใหม่ได้จะเดือนนึงละ นน.ก็ลงมาจากที่ดีดๆไปสี่ห้าโล แต่จริงๆเราอยากจะออกจากคีโตโดยหาทางใช้ชีวิตกับการกินอาหารที่มันสามารถใช้ไปได้ตลอดจริงๆ ทำอาหารแบบคีโตทุกวันเอาจริงๆเราก็ไม่ไหว เหนื่อยทำอาหาร กินนอกบ้านไม่ได้ และวัตถุดิบแพง กินแบบ IF ก็ไม่แย่แต่ที่เราแย่เองคือความอยากินแป้งหลังจากกินคีโตมาสองเดือนเลยเน้นคาร์บมากไปเอง หนหน้าจะลอง IF แค่ 12/12 แต่เน้นกินผักที่มีคาร์บแทนดูสิว่าจะไปได้กับไลฟ์สไตล์ตัวเองไหม

ได้ผลไม่ได้ผลอย่างไรไว้จะมาบอกนะคะ

Along the way
August 2018

---

แว่บมาเขียนเพิ่มผลของการออกคีโตรอบสองแล้วกิน IF ต่อนะคะอันนี้เขียนเดือน Novemner 2018 คือสามเดือนหลังจากที่เขียนบมความด้านบนไว้ หนนี้ดีมากกกกนน.ไม่ขึ้นเลย จะมีสวิงบ้างขึ้นๆลงๆหนึ่งโล หนนี้เราปรับแนวอาหารกับแนว IF เราใหม่ที่เราทำได้คือสามารถทำต่อไปได้เรื่อยๆแบบไม่รู้สึกลำบากอะไรค่ะ เราทำแบบนี้ค่ะ

1. เรากิน IF ไม่เท่ากันทุกวัน คือเว้น 16ชม.บางวันมันไม่ไหวอ่ะ หลักของเราคือตอนเย็นถึงดึกอ่ะกินถึงกี่โมงก็ได้ วันไหนไม่หิวก็แค่ข้าวเย็นหกโมงทุ่มนึง วันไหนทำงานดึกจะกินอีกรอบสี่ห้าทุ่มก็กิน แต่ที่เราฟิกซ์คือเช้าเราจะไม่กินจนกว่าจะพักเที่ยง บางที 11 โมงถ้าไม่ไหวจริงๆก็จะดื่มนมกล่องจิบๆรองท้อง
2. เรากินข้าวปกติในมื้อเที่ยง อยากกินอะไรกินแต่ไม่กินสองจานนะจ๊ะ
3. เย็นกินปกติ ถ้าเลือกได้พยายามกินแป้งให้น้อย เน้นเนื้อเน้นผัก ถ้ารู้สึกหิวให้กินผักที่มีคาร์บเยอะๆแทนเช่นแครอท ข้าวโพดอ่อน ถั่วลันเตา ไรพวกนี้ซึ่งเป็นผักที่เราชอบอยู่แล้ว
4. ขนมเค้ก ช็อกโกแลต คุ้กกี้ พวกนี้กินได้ แต่ไม่กินทีหมดทั้งกล่องทั้งโดส แบ่งๆกินเอา กินให้หายอยากขนมวันละชิ้นได้
5. ยังคงกินโยเกิรตหรือนมเปรี้ยวทุกวันเหมือนตอนกินคีโตอยู่
6. เนื้อสัตว์ติดมัน เนย ไขมันดี พวกนี้เราก็ยังกินอยู่นะคะ แต่กินน้อยไปมากแค่ไม่กลัวไขมันแล้ว
7. ถ้าช่วงไหนเร่ิมรู้สึกว่ากินเยอะไปก็จะ IF นานหน่อย ไม่ก็ลดแป้งลงสักหน่อยมันก็จะกลับมาจุดเดิมค่ะ

นน.มันก็ไม่ขึ้นนะคะ มีสวิงไปมาบ้าง แต่ตัวจะนิ่มๆขึ้นนะ ร่างกายมันก็พยายามแปลงแป้งให้เป็นไขมันสะสมกไว้ให้เราใช้เวลาฉุกเฉินอยู่ดีแหละค่ะ โดยส่วนตัวเราแบบนี้แฮปปี้กว่าเยอะเลยอ่ะค่ะ มันยากที่จะปฏิเสธแป้งออกจากชีวิตเรามาก กินคีโตแล้วเรารู้เลยว่าการที่มนุษย์กินแป้งทำให้มนุษย์ใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้น สะดวกขึ้นเพราะแป้งแปรรูปได้ง่ายและเก็บได้นานกว่าเนื้อสัตว์และไขมันมากนัก ข้าวสารงี้เก็บได้เป็นเดือนๆ ขนมปังเก็บได้หลายวัน ตอนกินคีโตเราทำอาหารใหม่เกือบทุกวันเหนื่อยมากกกก พอกินแป้งได้อะไรๆมันง่ายไปหมด 555 แต่ต้องขอบคุณคีโตมากๆๆๆ ถ้าไม่มีคีโตนี่การจะรีดเอาไขมันออกจากตัว 7โลนี่ต้องใช้พลังใจมหาศาลคิดว่าคงทำไม่ได้แน่ๆ คือบางคนมองว่าคีโตเป็นวิถีในการใช้ชีวิตแต่เรามองเป็นการลดน้ำหนักวิธีหนึ่งค่ะพยายามจะไม่กลับเข้าไปบ่อยค่ะ อยากให้เป็นจุดเริ่มต้นของการลดนน.ที่เห็นผลเร็วและช่วยให้มีกำลังใจมากกว่า

หวังว่าบทความจะช่วยคนที่กังวลเรื่องกินคีโตแล้วโยโย่หรือไม่ได้นะคะ

November 2018
Along the way