รีวิวเที่ยวมัลดีฟส์ June 2017 Review Maldives

สวัสดีค่า วันนี้ Along the way กลับมารีวิวประเทศใหม่ๆบ้างนะคะ เราจะมารีวิวมัลดีฟส์กันค่า เชื่อว่านี่เป็นหนึ่งใน travel destination ที่หลายๆคนคิดอยากจะไป งานนี้ได้มากับเพื่อนสาวตั้งแต่สมัยเด็ก พอมาถึงแล้วก็คิดเหมือนกันว่า “เฮ้ยๆ มันเป็นที่ๆควรมากับแฟนว่ะ” คือบรรยากาศดี โรแมนติคมาก วิวสวย ทะเลสวย แถมมันมีความชิวสบายๆ ด้วยความที่รร.ส่วนใหญ่จะเสนอ package ที่เป็น All inclusive มาให้คือหมายถึง ราคารวมอาหาร เครื่องดื่ม และพวกอุปกรณ์เล่นน้ำมาหมดแล้ว คือมาทีเดียวแล้วไม่ต้องจ่ายไรเพิ่มอีกเดทกันแบบ worry free ไปเลย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่ว่าจะมากับครอบครัวหรือเพื่อนก็สนุกได้เหมือนกันค่ะ

ทางเดินจากที่พักออกมาส่วนกลาง วิวที่เห็นทุกวัน01.jpg

ดินเนอร์ร้านอาหารอิตาเลี่ยนหรืออาหารไทย ยามเย็นวิวนี้04.jpg

งานนี้เริ่มที่เพื่อนไปเห็นโปรตั๋วถูกของ Bangkok Airways ก็เลยมาชวนเหล่าเพื่อนสาวว่าใครสนใจไปมัลดีฟบ้าง ได้ตั๋วไปกลับที่ 6,6xx บาท รวมกระเป๋าและมื้ออาหารบนเครื่องแล้ว ถือว่าราคาถูกมากนะ ปกติน่าจะประมาณ 15,xxx บวกลบหลายพัน เด้งเลยรีบตอบกลับรับคำสิคะ ตอนแรกจะชวนกันมาสามคน ถามราคาที่พักเพื่อนบอกสี่คืนประมาณ 50,000 บาท เราก็เฮ้ยยยย หารสามใส่เตียงเสริมนิดหน่อย ทำไมถูกจังคืนละสามพันต่อคนงี้เหรอ ตื่นเต้นใหญ่ ที่ไหนได้ราคานี้คือต่อคนค่ะ -_-* (ปล่อยไก่วิ่งว่อนบ้านเลย) คือที่พักมัลดีฟส์มันมักจะเป็นหนึ่งเกาะหนึ่งรร.และราคาเค้าก็จะคิดต่อหัว ไม่ใช่ต่อห้อง ใครไม่รู้ก็จะเหมือนเรารู้ราคาจริงก็ช็อคไปนิดนึง เพื่อนอีกคนเลยสละสิทธิ์ไป งานนี้เลยได้มาเที่ยวกันสองคน

เครื่องดื่ม Blue ocean ไม่มีแอลกอฮอลล์ ชอบสั่งกินสีมันสวยเหมือนทะเลที่นี่ รสชาติแบ่บมะนาวโซดา20.jpg

จองตั๋วไปก่อน แล้วเพื่อนก็ไปเดินหาแพ็คเกจรร.มาให้จากงานไทยเที่ยวไทย ส่วนใหญ่ราคาใกล้เคียงกัน แต่จะมีต่างกันนิดๆหน่อยที่บางรร.รวมหรือไม่รวมเข้าไป ก่อนจะเลือกอันไหนก็เช็ครายละเอียดพวกนี้นะคะ เพื่อจะได้รู้งบของตัวเองอย่างแท้จริง

  1. ราคารวม tax กับ service charge หรือยัง
  2. ราคารวมอาหารทุกมื้อหรือเปล่า
  3. ราคารวมค่าอุปกรณ์ดำน้ำตื้นหรือยัง มีให้ใช้อุปกรณ์เล่นน้ำอะไรบ้าง หรือต้องเช่าหมด
  4. อันนี้สำคัญ​ราคารวมอินเตอร์เนทแล้วหรือยัง ไม่มีเนตเหมือนจะขาดใจ
  5. รวมค่าเดินทางพวก เรือ speed boat หรือ sea plane ไปยังเกาะแล้วหรือยัง

สุดท้ายของเรามาจบที่รร. Centara Ras Fushi ค่ะซึ่งราคารวมห้าข้อข้างต้นไปแล้ว โรงแรมที่มัลดีฟส์ของ Centara มีสองอัน อีกอันชื่อ Centara Grand อันนี้จะไฮโซกว่าอันที่เราไปพักค่ะเค้าเรียกเป็นสี่ดาวกับห้าดาว ค่าใช้จ่ายตอนนี้อยู่ที่ ค่าตั๋ว6,6xx+ all inclusive package ห้าวันสี่คืน ของรร.อีก 50,000 นะจ๊ะ ราคาลองไปเช็คดูตามเวปของรร.ต่างๆดูค่ะ ส่วนใหญ่ก็ไม่หนีกันมากเท่าไหร่ พอไปถึงเกาะแล้วจนวันสุดท้ายมีค่าใช้จ่ายเพิ่มกันเองคือออกไปทัวร์เกาะท้องถิ่นรวมหมดแล้วประมาณคนละ 72usd กับ ค่า service charge และ tax จากร้านอาหารตะวันออกกลางที่ต้องจ่ายเพิ่มอีกประมาณคนละ 8 usd ออกมาเป็นอีกประมาณ 3,000 บาทไทย รวททริปนี้ถือว่าค่าใช้จ่ายออกมารวมแล้วก็อยู่ที่ประมาณ 60,000 จ้า แพงอยู่แต่เป็นประสบการ์ณครั้งหนึ่งในชีวิต (ที่ควรมากับแฟนนะคะ 55)

วิวด้านหน้าที่พักบนหาด ห้องพักอยู่หลังเรา ที่พักวิลล่าในน้ำอยู่ตรงที่เห็นยื่นๆออกไปนั่นแหละค่ะ14.jpg

ถ้าอยากได้ถูกหน่อยก็ให้ลดวันลงและนอนห้องพักบนหาดแทนวิลล่าในน้ำเอาค่ะ แล้วก็ไม่ต้องไปทัวร์เกาะท้องถิ่นค่ะไม่คุ้มเอาเสียเลยไว้เดี๋ยวเล่าให้ฟังอีกบทความค่ะ

บินจากสุวรรณภูมิไปมัลดีฟส์ใช้เวลาแค่สี่ชั่วโมงเอง ไม่นึกว่าจะใกล้กว่าไปญี่ปุ่นคิดมาตลอดว่ามันไกลมาก คือจริงๆมันอยู่ใต้อินเดียกับศรีลังกา ใช้เวลาแค่หนึ่งชม.จากมัลดีฟส์ก็สามารถไปถึงสองประเทศนั้นได้ ระหว่างการบินเหนือมัลดีฟส์ก็จะได้เห็นทะเลสีน้ำเงินเข้มมากทีเดียว จนพอเห็นเกาะถึงจะได้เห็นน้ำสีฟ้าที่เป็น destination ของที่นี่ มุมจากบนเครื่องบินสวยมากทีเดียว ถ้าได้นั่ง sea plane ไปรร.น่าจะฟิน แต่เราไม่ได้นั่งนะ นั่งเรือสปีดโบ๊ทเอา ซึ่งคงเป็นเหตุให้ราคาถูกกว่าที่อื่นลงมาหน่อย อิอิ พอลงสนามบินก็เป็นสนามบินเล็กๆที่ชิวมากทีเดียว แบ่บเครื่องจอดแล้วเดินลงบันไดเข้าตึกเอาเอง อ่านมาในพันทิพว่าสนามบินไม่มีแอร์ แต่มันก็มีแอร์นะ ตั้งแต่เอากระเป๋าจนออก immigration

วิวตอนเข้าใกล้ๆมัลดีฟละ05.png

การตรวจคนเข้าเมืองที่นี่ก็ชิวอีกละ คือมีเครื่องสแกนนิ้ววางก็ไม่ได้ใช้ ถามก็ไม่ถาม เอาพาสพอรท์ไปปั๊มผ่านเลย อย่างเร็ว พอออกมาข้างนี่ไม่มีแอร์ละ ก็จะมีร้านช็อปปิ้งประมาณนึงและร้านอาหารเชนอยู่สี่ร้าน อันได้แก่ Pizza Hut, Burger king, Coffee club กับร้านอาหารไทยหนึ่งร้าน เดินลากเป๋าออกมาปุ๊ปก็จะมีพนักงานรร.ยินถือป้ายรร.รอเลย แล้วก็พาเราไปที่บูธเล็กๆเพื่อผูกแท็กกระเป๋าและรอขึ้นเรือ บูธนี่เรียงกันเป็นตับเล็กจริงๆแบบ 1×1 เมตร พอคนที่จะไปรอบเดียวกันมาครบเค้าก็พาไปขึ้นเรือของ Centara เอง ใส่ชูชีพแจกน้ำคนละขวดแล้วก็ออกเดินทางประมาณ 20 นาทีถึงรร.จ้า อย่าลืมเก็บขวดไว้ใช้แช่ตู้เย็น บนเกาะไม่มีน้ำใส่ขวดพลาสติกนะคะรักษ์โลก

ระหว่างทางจะต้องผ่านเกาะนึงซึ่งมีควันออกมาตลอดเวลาตอนเรือผ่านก็มีกลิ้นเหม็นของการเผาออกมา ลองถามๆคนโน้นนี้ดูได้ความด้านหน้าเป็นเกาะ industry มีพวกโรงงานไรสักอย่างอยู่และด้านหลังเป็นเกาะขยะ เห็นปริมาณควันที่ออกมาแล้วก็รู้สึกเป็นห่วงนิดหน่อย แต่ก็ไม่รู้ว่านี่คือเยอะหรือน้อยสำหรับประเทศท่องเที่ยวขนาดนี้

ดึกๆแบบมาถ่ายรูปที่บาร์ตรงล็อบบี้ พอดีประจันทร์เต็มดวงหลบหลังเมฆ บนพื้นก็เป็นควันจากเกาะนั่นแหละ สวยไปอีกแบบไม่เหมือนอยู่มัลดีฟส์เลย06.jpg

ลงเรือมาที่รร.ประมาณเที่ยงก็มีพนักงานต้อนรับอย่างอบอุ่น ด้วยความที่เป็นรร.ของคนไทยก็จะมีพนักงานที่พูดไทยได้อยู่แล้ว ก็จะพาไปรอเช็คอินกับเริ่มสั่งเครื่องดื่มที่รอใน all inclusive ได้เลย ทีนี้เนื่องจากวันกลับเรากลับเก้าโมงเช้า ทางพนักงานก็เลยบอกว่าให้เอาอาหารมื้อเที่ยงวันกลับมากินวันนี้เลย ส่วนอีกคู่ที่มากับเราขากลับเค้ากลับเย็นๆ พนักงานก็แนะนำว่าถ้าทนได้ก็ควรเก็บมื้อไว้กินเที่ยงวันกลับแทนจะดีกว่า แต่เครื่องดื่มไรนี่ไปสั่งได้เลย

ร้านอาหารบุฟเฟ่ต์ที่ไม่ต้องจอง เปลี่ยนธีมอาหารไปเรื่อยๆค่ะ19.jpg

อากาศที่มัลดีฟตอนเราไปกลางเดือน6 มิถุนายน 2017 อยู่ที่ประมาณ 27-30 ตลอด ไม่มีฝนเลยโชคดีมาก คนที่ไปก่อนหน้านี่สองสามอาทิตย์จะเจอฝนตกทุกวันซวยสุดๆ สำหรับเรา รู้สึกว่าอากาศดีกว่าที่ไทยนะ (กรุงเทพและเชียงใหม่ในช่วงเวลาเดียวกันนี้อยู่ที่ 35 องศา) คือไม่ร้อนเท่าแล้วก็มีลมเรื่อยๆ คือไม่ใช่ไม่ร้อนนะ แต่ไม่รู้สึกอบอ้าวเหมือนในเมือง แต่แดดแรงมากห้าวันตัวเปลี่ยนสีเลยทีเดียว

ขออนุญาติข้ามเรืองอาหารไปก่อนมันเยอะไว้แยกรีวิวเป็นอีกเรื่องนึง พอเช็คอินเข้าห้อง ลืมบอกห้องเราเป็น sea villa ก็คืออยู่กลางน้ำจากระเบียงห้องลงทะเลได้เลย ราคาจะแพงกว่าพวกบ beach villa ประมาณ 1,000 บาทต่อห้องต่อคืน บางคนก็พักแบบสลับๆไม่ต้องนอน sea villa ทุกคืนก็ได้ แค่ให้พอได้อารมณ์ ห้องพักดี ได้มาตรฐาน ห้องไม่เล็กไม่ใหญ่ไป แต่วิวนี่คือดีมากอลังการมาก ทะเลฟ้าสวยใสมองเห็นพิ้นทะเลและปลามากมายตลอด ช่างดีนัก

สีสวยมากๆ03.jpg

สิ่งต่อมาที่ทำก็คือการไปขอยืมหน้ากากดำน้ำกับตีนกบไว้ดำน้ำตื้นจากบันไดหน้าห้องค่า เค้าก็จะให้ทดสอบว่าเราว่ายได้ไหมนิดหน่อย คือให้ลงน้ำแถวๆนั้น (แบบยืนถึง) ตีขาสักสิบเมตรก็ผ่านละ เราว่ายน้ำไม่เป็นก็ยังผ่าน 55 แต่ตีนกบหมด ไม่มีขนาดที่เราจะใช้คนอื่นยืมไปหมดแล้วถ้าจะเอาต้องมาวันอื่นอีกที ก็ไม่ซีเรียสอะนะ ไม่เคยใช้ใส่ว่ายอยู่แล้ว

ได้ของมาแล้วก็ต้องประเดิมด้วยการลงทะเลจากหน้าบ้าน น้ำกำลังขึ้น เห็นทะเลใสๆนี่คลื่นแรงมากนะ เราใส่ชูชีพตลอดกลัวไม่ได้กลับบ้าน โดนพัดไปพัดมาก็เวียนหัวเหมือนกันนะ ไปหนนี้แถมทำรีวิว กล้องมือถือถ่ายไต้น้ำ กับ รีวิวหน้ากากดำน้ำแบบไม่มีท่อ ก็หมดไปทั้งบ่ายละกว่าจะหัดใช้ ลองโน่นนี่

ลงไปลอยตุ๊บป่องๆดูปลาค่ะ08.png

ทะเลสวยมากจริงๆใสมากฟ้ามาก เราคิดมาตลอดว่าทะเลไทยสวยที่สุด ไปไหนๆมาก็ยังไม่เจอที่สวยกว่าทะเลไทย พอมาที่นี่แล้วแบ่บชนะของไทยเราไปเฉียดฉิว สวยใสแค่ไหนดูในคลิปที่ทำรีวิวนี่มาละกันค่ะฝาก ช่องท่องเที่ยว ช่องไอที ซะด้วยเลย 555 ถ่ายซะปวดหัวเลย คือดำน้ำ คลื่นก็ซัด ว่ายก็ไม่เป็น จอก็ต้องมอง ถ่ายก็กลัวไม่ติด หน้ากากก็แบ่บกระจกโค้งภาพเบี้ยวๆหน่อย กว่าจะได้สองคลิปนี้มาเมาคลื่นไปหลายรอบ

ขอแอบจัดอันดับทะเลที่เคยไปเห็นมาแล้วแล้วรู้สึกว่าสีสวยจัง (ไม่รวมเรื่องอื่นๆเลยนะ)

1. Maldives

2.ทะเลไทย

3. ทะเลที่ไต้หวัน Hualian Ocean ดูได้ในคลิปนี้ช่วงนาทีที่ 2.30

เอาล่ะเล่นน้ำเสร็จเป็นอย่างแรกต่อด้วยการไปนั่งชิวที่ วิวบาร์ พร้อมจิบเครื่องดื่มแบบ unlimited เราไปกันก่อนกินข้าวแดดแรงมากๆส่องเข้าเต็มๆ ทำให้ไม่มีคนเลย แต่มาวันแรกก็ยังเห่อๆไปนอนบนที่นอนตาข่ายกลางแดดซะเลย แดดแรงแต่ไม่ร้อนมากเพราะลมมันพัดมาจากตาข่ายข้างล่าง ดื่มค็อกเทลสีสดสวย เล่นเนต โพสรูปรัวๆกันไปค่ะ พอห้าโมงคนที่บาร์ก็จะมาเรียกว่ามีกิจกรรมให้อาหารปลานะ ไปดูได้อยู่ตรงหน้าบาร์นี่ละ เจ้าหน้าที่เอาเนื้อทูน่ามาเป็นลัง แมงวันบินว่อน โยนไปปลาก็มากิน พระเอกคือเจ้า baby shark แต่ก็ตัวไม่เล็กนะว่ายมาแย่งๆกันกินแล้วก็ไป

ตาข่ายสุดฮอท แย่งกันทุกวัน12.jpgตากแดดจองมาตั้งกะสี่โมงกว่าพระอาทิตย์จะเร่ิมต15.jpgตรงกลางบาร์มีช่องแบบนี้11.jpgให้อาหารปลา จะเห็นว่าตรงเสามีคนลงไปถ่ายรูปปลาด้วยนะ 13.jpgหลบหน่อยพระเอกมา21.jpg

ได้เวลาร้านอาหารเปิดตอนเย็นก็ไปกินบุฟเฟ่ต์กัน กินเสร็จกลับมาที่บาร์กลางทะเลนี่อีกครั้ง คนหายหมดละ (คือคนจะแน่นตอนพระอาทิตย์ตก) ก็มาทำอีกหนึ่งไฮไลท์ของที่นี่ คือการนอนดูดาวค่ะ อันนี้เราชอบมาก นอนบนตาช่ายดูดาวจิบเครื่องดื่มแล้วก็ตั้งกล้องถ่ายรูปดาวกันไป ที่นี่ถ่ายเห็นทางช้างเผือกด้วยอ่ะถือเป็นช้างตัวแรกของเราในการถ่ายดาว ถ่ายดาวสนุกอยู่คนเดียว เห็นคนอื่นเค้าเฉยๆกันนะ 55 รูปในบทความนี้ไม่ได้ผ่านการแต่งนะคะ ยกเว้นรูปดาวด้านล่างนี่เท่านั้นพยายามขุดดาวขึ้นมาจากรูปให้ดูกัน ตาเปล่าเห้นน้อยกว่ารูปถ่ายนะคะ

จากตรงบาร์16.jpgระเบียงห้องพัก18.jpgมุมหน้าห้องพักบนบีช17.jpgบาร์คืนที่สอง .jpg

จบวันแรกค่ะหวังว่าจะได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการไปเที่ยวกันนะคะ เดี๋ยวไว้ตอนต่อไปจะเป็นพวกกิจกรรมอาหารการกินของที่นี่นะคะ

Along the way

Maldives, June 2017

ถ้าชอบบทความ เกร็ดท่องเที่ยวติดตามได้ที่เพจ Facebook @AlongTheWayMoment

อ่านบทความอื่นๆได้ใน Along the way moment WordPress blog

ดูวิดิโอท่องเที่ยวได้ที่ Along the way Youtube

3 ความเห็นบน “รีวิวเที่ยวมัลดีฟส์ June 2017 Review Maldives

ใส่ความเห็น