สวัสดีค่ะ หายหน้าหายตาไปนานไม่ได้อัพเดทบล็อกมาสักพัก แวะมาเขียนข้อมูลที่อาจจะเป็นประโยชน์กับทุกคนดีกว่า เร็วๆนี้ผู้เขียนได้ตัดสินใจว่าอยากจะทำเลสิค กว่าจะพร้อมทำก็สักพักเพราะเงินที่ต้องใช้ก็เยอะอยู่ แต่ตัดแว่นราคาเป็นหมื่นทุกสองปีก็ไม่ไหวนะ รวมไปถึงอยากจะได้ความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตเพิ่มขึ้นด้วย
เราเลือกทำเลสิคที่ TRSC ซึ่งถือว่าเป็นที่ๆโด่งดังที่สุด และแพงที่สุดสำหรับการทำเลสิคค่ะ เราก็เลือกตามที่เค้าแนะนำกันมา เป็นเรื่องความสบายใจล้วนๆ คิดว่าทำกับที่ดีสุด แพงสุด กับผู้เชี่ยวชาญที่สุดไปเพื่อลดโอกาสผิดพลาด(ซึ่งจริงๆก็อาจจะไม่เกี่ยว) โดยนัดทำกับอาจารย์เอกเทศ ชันซื่อ เจ้าของศูนย์และผู้เชี่ยวชาญด้านนี้ ก็คือไม่ได้เช็คราคาหรือใดๆกับที่อื่นปักธงมาเลยตั้งแต่แรกดังนั้นไม่มีข้อมูลเปรียบเทียบนะคะ
ตอนนี้มีเลสิคหลายแบบมากๆ แต่เราเลือกทำวิธีล่าสุดก็คือ ReLEx เป็นวิธีผ่าแบบใหม่ล่าสุดที่เปิดแผลตาแค่ 2-3มม. เท่านั้นเอง จะหายเร็วและมีอาการข้างเคียงน้อยที่สุด แต่ทางศูนย์แจ้งไว้ว่ามันก็มีโอกาสที่จะเกิดโน่นนี่ให้แก้ไขที่ประมาณ 1.7%
ลักษณะของ ReLEx คือจะใช้เลเซอร์ยิงเพื่อปรับความโค้งของกระจกตาเราค่ะ ที่เราเข้าใจคือกระจกตามันโค้งไปทำให้ภาพกับแสงที่เรามองเห็นมันหักเหลงไม่โดนจุดรับภาพ ภาพก็เลยไม่ชัด อธิบายเป็นภาพก็เหมือนเราเอาแว่นขยายไปรวมแสงเผากระดาษตอนเด็กๆ ถ้าระยะไม่ได้ แสงก็ไม่รวมกันสักทีกระดาษก็ไม่ไหม้ คล้ายๆกับสายตาสั้น วิธีของรีเล็กซ์คือเค้าเจียเลนส์ของแว่นขยายด้วยการยิงปรับความนูนของเลนส์แว่นขยายค่ะ โดยไม่มีการแตะต้องผิวเลนส์ด้านนอกเลยทำให้แผลหายเร็วมากและไม่เจ็บ
ของจริงเค้าใต้กระจกตาเรายิงเป็นเลเยอร์แล้วเอาเลเยอร์นั้นออก ยิงแล้วเลเยอร์นั้นจะยังอยู่ใต้กระจกตาเราอ่ะเป็นแผ่นบางๆ พอยิงเสร็จเค้าก็จะใช้เลเซอร์เปิดช่องข้างๆตาดำ2-3มม.แล้วเอาอุปกรณ์ดึงแผ่นเลเยอร์นั้นออก พอดึงออกตาเราก็จะโค้งน้อยลงแล้วแสงก็จะหักเหลงตรงจุดรับภาพพอดีค่ะ เลยทำให้มองเห็นชัด
ค่าใช้จ่ายทั้งหมด
- ค่าบริการสำหรับสองตาคือ 135,000 และจะมีส่วนลดเมื่อเพื่อนแนะนำมาหรือมีโค๊ดให้ที่ 5,000-7,000 บาท
- วันตรวจตาค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 1,500 ถ้ามีโค๊ดลดได้อีก 500 อันนี้เราเซ็งนิดหน่อยเพราะตอนกรอกรายละเอียดเค้าให้กรอกชื่อเพื่อนที่แนะนำมา แล้วเรานึกว่าพันห้าคือราคาที่ลดแล้ว ตลอดระยะเวลาการพูดคุยจนจ่ายเงินก็ไม่ได้มีใครถามถึงโค๊ดส่วนลด มารู้ที่หลังว่ามันได้ลดไม่เท่ากัน พอจ่ายไปแล้วเค้าก็ไม่สามารถย้อนเครดิตให้เราได้ ดังนั้นก็รักษาสิทธิตัวเองด้วยการอย่าลืมเป็นคนพูดเรื่องโค๊ดเองนะคะ
- ย้ำอีกทีบอกโค๊ดสำหรับทั้งวันตรวจและผ่า ได้ลดไม่เท่ากับการเขียนชื่อเพื่อนนะคะ
- ถ้าตรวจแล้วผ่าได้ต้องไปตรวจ HIV ในเลือด ทางศูนย์ก็จะแนะนำไปที่รพ.BNH เพราะอยู่ใกล้และรอได้เลยในสองชม.แต่ถ้าจะไปตรวจที่อื่นยังไงก็ได้ไม่ว่ากัน ค่าตรวจ HIV อีก 850 บาทที่ BNH
- ของเราตรวจแล้วจอประสาทตาหรืออะไรสักอย่างดูผิดปกติคล้ายคนเป็นต้อหิน ทางอาจารย์แนะนำให้ไปตรวจต้อหินก่อนด้วยเช่นกัน เพราะถ้าเป็นควรไปรักษาก่อนเดี๋ยวตาจะบอดเอาได้ ได้รับจม.รีเฟอร์ไปตรวจที่ BNH อีกเช่นกัน ไปตรวจใช้เวลาประมาณ 40 นาที ราคาอยู่ที่ 5,180 บาท
- เราตรวจสภาพตาวันจันทร์ แล้วมีนัดผ่าวันพุธเลย ก็เลยไปที่ BNH หมดเลยเพื่อความว่องไว ถ้าไปตรวจที่อื่นอาจจะถูกกว่านี้
หลังจากนี้ค่าใช้จ่ายก็จะเป็นเรื่องของการเดินทางมาเช็คหลังผ่า วันหลังจากผ่า หนึ่งอาทิตย์ หนึ่งเดือน สามเดือนและหนึ่งปี ซึ่งค่าเช็ครวมอยู่ในราคาค่าผ่าตัดแล้วค่ะ ยกเว้นมีอะไรเพิ่มเติม (ยังไม่ได้ทำไว้ทำแล้วมาอัพเดทให้)
วันมาตรวจเค้าก็จะมีข้อห้ามพวกแต่งหน้า หยุดใส่คอนแทคเลนส์สักพัก ห้ามกินยารักษาสิว และอื่นๆที่สามารถไปหาอ่านได้ในเวป TRSC ได้เองค่ะ กว่าเราจะได้มาตรวจนี่ก็นานมาก เพราะอาจารย์เอกเทศคิวแน่นมาก เราจองประมาณเดือนครึ่ง ช่วงเดือน 4 แล้วพอใกล้ถึงวัน เจอ covid-19 จ้า ศูนย์ปิด เลื่อนออกไปหนึ่งเดือนเป็นเดือน 5 พอใกล้ๆถึงวันนัดมีประกาศยังไม่ให้สถานประกอบการณ์แบบนี้เปิด ทางศูนย์ก็จะให้เลื่อนไปอีกเดือนแต่เราเองก็ไม่สะดวกจะกลับไปเชียงใหม่แล้วติดงานสอนหนังสือก็เลยขอเค้านัดตอนหลังปิดเทอมไปเลยซึ่งก็ตกเดือน 8 ไปซะเลย ยาวนานมากจริงๆ แต่พอมาตรวจปุ๊ปสองวันได้ผ่าเลย
ขั้นตอนการตรวจก็
- วัดสายตาคล้ายๆตัดแว่น แต่ละเอียดกว่าต้องเข้าออกห้อง 5-6 ห้อง ใช้เครืองมือต่างๆในแต่ละห้อง มีวัดความหนากระจกตา สายตาสั้นเอียง และอื่นๆ
- พอตรวจเสร็จหมดเค้าให้ไปดูวีดีโอ เรื่องความเสี่ยงและรายละเอียดการผ่าตัดวิธีต่างๆ มีกราฟฟิคอธิบายชัดเจนดี เข้าใจง่าย เนื้อหาหลักๆคือ การทำเลสิคทุกประเภทมีความเสี่ยง ในเรื่องของผลข้างเคียง ทั้งแสง glare/halo หรือการที่ทำแล้วออกมาอาจจะไม่ได้คมเท่าที่ตั้งใจไว้ในทุกคน ต้องมีการมาเติมเลเซอร์อีกครั้งอะไรประมาณนี้ คือเป็นการเตือนเราว่าการผ่าตัดยังไงก็มีความเสี่ยง ต้องตัดสินใจก่อนนะจ๊ะ ตอนดูก็จะแจกสมุดโน๊ตและปากกกา เอาไว้จดสิ่งที่สงสัยได้ อันนี้ดี 555
- ที่นี่ก็จะมีผู้ดูแล มาประกบเรา 1 ต่อ 1 ก่อนจะเจอแพทย์ คนๆนี้จะช่วยอธิบายและตอบข้อสงสัยทุกสิ่งให้ ทั้งเรื่องราคา รูปแบบที่อยากทำ ผลกระทบและอื่นๆ มีอะไรก็ถามไปค่ะ บางเรื่องเค้าก็จะบอกให้รอไปถามแพทย์
- ในผู้ที่มีอายุเกิน 37 ปี ก็จะมีการอธิบายเรื่อง full correction กับ mono อะไรสักอย่าง คือเรื่องของการทำตาให้ชัดไปเลยสองข้าง หรือเว้นอีกข้างให้สั้นไว้ 100 สำหรับเพื่อลดการใส่แว่นเมื่อสายตายาวมาถามหา เพื่อให้คนที่จะทำเลสิคเลือกว่าจะเอาแบบไหน เราเอาแบบ full คือชัดสองข้างไปเลย ถ้าสายตายาวค่อยใส่แว่นเอาไม่ได้เครียดกับอันนี้เท่าไหร่
- ต่อมาจะมีการหยอดยาขยายม่านตา เพื่อตรวจซ้ำอีกครั้งนึง ก็จะให้นอนบนเก้าอี้นวดและหยอดยาสองทีห่างกันห้านาที ตอนหยอดก็จะแสบตานิดนึง พอหยอดแล้วตอนใส่แว่นจะมองใกล้ไม่ค่อยเห็นแหละ โฟกัสไม่ได้ ยาอยู่ 4-6ชม. อยู่ในอาคารไม่ค่อยรู้สึกแต่ตอนกลับบ้านเดินลงมานอกตึกนี่แดดจ้าเว่อร์ ต้องใส่แว่นกันแดดทับแว่นไปอีกที อันนี้ใช้ตาได้ปกติหมดค่ะ แต่โฟกัสมือถือยากหน่อย
- หยอดเสร็จเค้าก็พาไปวัดสายตาซ้ำอีกทีที่ให้อ่านเลขบนกระดานน่ะ แล้วก็ทำไรอีกอย่างสองอย่างกับเครื่อง
- สุดท้ายคือไปเจอคุณหมอตอนที่ม่านตายังขยายอยู่ เพราะจะตรวจความดันตากับส่องเข้าไปในดวงตาค่ะ
- ก่อนเจอหมอต้องหยอดยาชาที่ตาเพราะจะมีเครืองที่มาแตะตาเพื่อเช็คความหนากระจกตา ยาชาหยอดจะแสบตาแปปนึงไม่ถึงนาทีก็หายคล้ายๆยาขยายม่านตา
- ของเราเข้าไปตรวจก็เลยเจอเรื่องปัญหาสงสัยเรื่องต้อหิน ก็เป็นไปตามที่เขียนไปด้านบนค่ะ
____________
วันผ่า
ก่อนผ่า
- ห้ามฉีดยาโน่นนี่ต่างๆ ห้ามทาครีม และให้พกแว่นกันแดดไปด้วย
- นัด 13.30 เราไปก่อนเวลาค่อนข้างเยอะ ก็เลยลงไปกินข้าวรอ กลับขึ้นมาอ่านเอกสารต่างๆ และ เซ็นยินยอม
- ก่อนจะเริ่มเค้าจะให้กิน Velleum เป็นยาที่กินแล้วจะผ่อนคลายๆ
- เข้าห้องถอดแมสก์ แว่นตา กระเป๋า เอาใส่ล็อคเกอร์ เค้าจะให้ใส่แมวก์หมอ และ ที่คลุมผม
- เปลี่ยนเป็นรองเท้าแตะ เสื้อไม่ต้องถอดมีเสื้อห้องผ่าตัดคลุมอีกที มือถือสามารถเอาใส่ในกระเป๋ากางเกงเข้าไปได้
- ออกมาจากห้องเปลี่ยนเสื้อไปนั่งรอบนเก้าอี้ปรับระดับ
- ระหว่างทางต้องมีคนนำทางมาเพราะมองเห็นไม่ชัดเลย สายตาสั้น 650
- พอนั่งแล้วจะมีคนมาอธบายขั้นตอนการทำทั้งหมด
- พร้อมหยอดยาชาให้ หยอดให้สี่ถึงห้ารอบ เว้นประมาณ 3-4นาทีต่อรอ หยอดไปเรื่อยๆจนตาชา เราจะรู้ว่ชาเพราะว่าตอนหลังเวลาน้ำลงมาที่ตาเราจะไม่รู้สึกอะไรเลย
- ระหว่างการหยอดเค้าก็จะให้หลับตาตลอด
- มีพนักงานมาถามว่าระหว่างผ่าอาจจะเครียดอยากได้ลูกบอลไว้บีบ หรืออยากได้พนักงานช่วยจับมือ! อันนี้เริ่ดอ่าาา ชอบมากด้วยความขี้กลัว ขอคนจับมือค่ะ 555
- สุดท้ายคุณหมดที่เป็นคนผ่าจะออกมาเอง เพื่อนั่งคุยกัยเรา อธิบายขั้นตอนและบอกชัดเจนว่าให้ทำตามคำสั่งคุณหมอเท่านั้น ตรงนี้หมายถึงถ้าเค้าบอกให้มองบน ก็มองบนตาม มองตรงกลางก็ตรงกลางตาม ห้ามทำนอกเหนือจากนั้น เช่นกรอกตาหรืออื่นๆ เด็ดขาดห้ามคิดเอง
- ก่อนจะเข้าห้องผ่าตัด เค้าจะถามว่าอยากเข้าห้องน้ำหรือดื่มน้ำไหม ก็จัดไปค่ะ
เข้าห้องยองเลเซอร์
- จะโดนพาเข้าห้องละ ให้นอนบนเตียงที่หมุนได้ ในที่นี่คือเป็นลักษณะเหมือนมีดพับ คือตรที่เรานอนเหมือนใบมีดจะหมุนเข้าไปหาเครื่อง
- ระหว่างนั้นเค้าจะให้หลับตาตลอด
- เริ่มด้วยการยิง laser ในกระจกตาส่วนที่จะเอาออกก่อน
- มีคนมานั่งจับมือละ และหมอใช้เครื่องมือถ่างตาให้เปิดไว้ ไม่รู้สึกอะไรเลยเพราะมันชา
- จะเริ่มให้มองเครื่องมีจุดสีเขียวให้จ้องและขยับตาตามมัน
- แล้วหมอก็จะสั่งให้มองตรงไฟก็จะหายไป เครื่องเริ่มทำงาน
- สิ่งที่เรามองเห็นจะกลายเป็นฝ้าไปหมดเลยเหมือนมีชั้นขุ่นๆมาคั่นตรงตาค่ะ ก็คือเค้ายิงเอากระจกตาที่จะปรับออก
- ทำทีละข้างทำเสร็จแต่ละข้างก็เอาผ้าก็อตปิด
- อันนี้ข้างละไม่ถึงนาทีนะ ไวมากไม่น่ากลัวด้วย
- แต่ตอนเรายิงข้างซ้ายอ่ะ เราตาหลุกหลิกไปนิดนึง ไม่นิ่งและสติไม่ดีเท่าข้างขวา หมอก็ตกใจนิดหน่อย บอกว่าให้ตามคำสั่งมองตรง แล้วก็พยายามชมตลอด ซึ่งดีมากเพราะหมอพูดดีๆละไม่ดุ ใช้ชมเอาทำให้เรารู้สึกว่าไม่เป็นเรื่องใหญ่ เพื่อนเรามีไปทำที่อื่นแล้วหลุกหลิกเหมือนกัน หมอหยุดเครื่องแล้วก็บ่นๆๆๆ ว่าๆๆๆ จนเพื่อนเครียดไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เราว่าอันนี้เป็นจิตวิทยาที่ดีมากๆ
- คิดว่าขั้นตอนนี้คือสำคัญที่สุดตาต้องนิ่งเพื่อให้เครื่องมันนิงเลเซอร์แล้วไม่หลุด แต่เท่าที่ฟังจากเพื่อนที่ทำอีกทีคือเค้าบอกเลยว่าถ้าตาเราหลุดเป้าเครื่องมันจะหยุดอัติโนมัติ ดังนั้นก็เลยค่อนข้างสบายใจ
- อะ ตาฝ้าสองข้างใต้ผ้าก็อต เค้าจะเข็นเตียงเราย้ายไปอีกห้องละ น่าจะเป็นห้องผ่า
เข้าห้องผ่าเอากระจกตาที่โดนยิงออก
- โดนย้ายมาที่ห้องรอนอนรอเฉยๆนานเหมือนกัน หลับจาตลอด
- พอมันเงียบๆก็เริ่มกลัว แต่ได้ยินเสียงเจ้าหน้าที่คุยกันตลอดก็ช่วยคลายกังวลไปได้อยู่
- สักพักนึงเค้าก็เข็นเตียงมาห้องผ่า จะได้ดึงเอากระจกตาที่โดนยิงฝ้าๆไว้ออก
- เจ้าหน้าที่เอาเทปมาปิดช่วงตา กับเอาผ้ามาคลุมปากไว้อีกที
- ขั้นตอนต่อไปต้องมองดวงไฟซึ่งจ้ามาก
- เป็นช่วงที่ใช้เครื่องดูดตามันจะมาแตะที่ตาเราเลย แต่ไม่รู้สึกเหมือนเดิมเพราะชาอยู่
- พอดูดปุ๊ปมีเสียงเครื่อง suction on แล้วภาพที่เราเห็นจะกลอกไปมา ปวดหัวพอประมาณแต่ไม่นาน
- พอหมดตัวดูดสิ่งที่ต้องทำคือมองไฟต่อไป
- แอบเห็นเครื่องมือหมอตามขอบๆตา น่าจะเป็ฯตัวที่ใช้ดึงแผ่นเลเยอร์ฝ้าออกจากตา จะรู้สึกโดนกดๆนึงนึง
- พอเค้าดึงออกรู้เลย เพราะมันจะชัดเลย
- ทำข้างที่สองต่อ
- ทั้งหมดแป๊ปเดียว ข้างละไม่ถึงนาทีเช่นกัน
- จบด้วยการทำความสะอาดขี้ตาตรงหัวตา อันนี้แสบมากแบ่บโดนควักขี้ตาน่าจะเยอะ
หลังผ่า
- ลงจากเตียงละ คือตอนนี้คุณมองเห็นละนะ จะมองเห็นหน้าตคนที่มาพยุงค่อนข้างชัดเลย
- พาเดินไปนั่งที่เดิม เค้าก็จะมีคนมาหยอดตาอีกสองสามรอบ น่าจะเป็นฆ่าเชื้อ
- โดนทำความสะอาดหน้าและปิดที่ครอบตาไว้ ที่ครอบตาเป็นสีขาวทึบละมีรูเล็กๆปิดแล้วเหมือนแมลงวัน 55
- เราก็มองเห็นผ่านรูทั้งหลายเดินออกมาเปลี่ยนเสื้อได้ละ
- ออกมาก็ห้ามถอดที่ครอบหนึ่งวัน
- นั่งรถกลับบ้าน มึนมาก หลับตาละสลบไปเลยบนรถ ตื่นมาก็หายปวด
- วันนี้ห้ามทำอะไรห้ามเหงื่อออก หรือ ให้น้ำอะไรไปเข้าตาเด็ดขาด
หนึ่งวันหลังผ่า
- หมดจะนัดมาตามผลหนึ่งวันหลังผ่าทันที
- เรานัด 8.45 เพื่อถอดที่ครอบออกและทำความสะอาดตา ขี้ยาก็เยอะอยู่
- ทดสอบการอ่านเพื่อดูว่าการมองเห็นโอเคไหม
- และหลังจากวันนี้เค้าให้ใส่ face shield แทนตอนกลางวันมือจะได้ไม่ไปเผลอโดนตา ส่วนตอนนอนใส่ครอบไว้จะได้ไม่เผลอขยี้ตาตอนหลับ
- เข้าพอหมด หมอก็จะส่องกล้อขยายเพื่อดูแผล มีการหยอดสีเพื่อให้เห็นแผลชัดด้วย
- โดนหมอแซวเรื่องที่ทำตาข้างซ้ายหลุดหลิก ท่าทางเกือบจะเป็นเรื่องจริงๆ
- สามารถใช้ตาได้เลย แต่ให้พักบ่อนๆ เราก็นอนเยอะๆ สามารถเล่นมือถือได้นิดหน่อย
- พยายามหาอะไรทำระหว่างพักที่ใช้ตาไม่หนักนะ นอน / ฟัง youtube / เขียนหนังสือ (ที่พิมพ์มานี่คือจดวันต่อมาเลย) / โทรคุยกับเพื่อน / กิน
- เค้าจะให้ยาหยอดตามาและให้หยอดทุกชม.น่าจะเป็นยาฆ่าเชื้อ ให้หยอดไปจนหมดหลอด
1 อาทิตย์หลังผ่า
- ไม่ให้ล้างหน้าสระผมช่วงวันแรกๆนะ ต้องเช็ดน้ำเกลือเอาส่วนผมก็ปล่อยมันมันไป
- นอนจนเบื่อ
- ถ้าสงสัยอะไรสามารถไลน์ไปถามพนักงานที่ดูแลเราได้ ที่นี่เค้าจะ assign พนักงานคนนึงให้เราไม่สบายใจอะไร หรือมีคำถามออะไรทักหาได้ตลอด แต่ก็มีคู่มือการดูแลตัวมาให้เป็นเล่มๆนะ
- จะต้องคอยหยอดน้ำตาเทียมตลอดทุกๆ2-3ชม. เพราะตาจะแห้งเนื่องจากมีเส้นเลือดที่ดวงตาบางส่วนเสียหายจากการผ่าตาของเรา ยิ่งหยอดบ่อยยิ่งดี
- วันแรกเราก็มองเห็นค่อนข้างชัดเลย แต่จะโฟกัสระยะไกลไม่ค่อยได้ ตามันก็คงต้องปรับตัว
- วันที่สองเราก็เห็นชัดหมดละ แต่ถ้ามองไฟอ่ะจะมีความฝ้าเห้นแสงเป็นฟุ้งๆรอบดวงไฟ
- จะรู้สึกล้าเป้าตาง่ายกว่าปกติ หลับตานานๆพอลืมตาก็จะมึนๆ ร่างกายกับตาก็คงปรับตัวเช่นกัน
จบแล้วค่ะ ไม่ได้อัพเดทช่วงผ่านานมากไปหน่อยจะครบปีละ 555 ขอโทษคนที่แวะเข้ามาอ่านด้วย ตอนนี้เขียนเดือนเมษา 2021 ก็ 9เดือนละค่ะ มองเห็นชัดเป็นปกติดีทุกอย่าง ขับรถกลางคืนก็โอเคหมดนะคะ เราไม่ได้เห็นไฟแฉกอะไรแบบที่คนเค้าว่ากัน มีแค่ช่วงสองเดือนแนกที่รู้สึกว่าไฟมันฝ้าแอบขับรถกลางคืนยาก พอผ่านสองสามเดือนไปก็ไม่เห็นละค่ะ แต่ที่สังเกตุคือต้องพยายามให้ตาไม่แห้งถ้าวันไหนนอนน้อยหรือตาแห้งอ่ะ ภาพมันจะมีฝ้าเยอะถ้ามีน้ำตาเทียมหยอดอาการก็จะหายไปเช่นกันค่ะ กิจกรรมอื่นๆว่ายน้ำ เล่นกีฬา ทำอะไรพอไม่มีแว่นก็สะดวกดีค่ะ
ตอนนี้เหลือรอสายตายาวจะมาเมื่อไหร่ กับต้งอคอยใส่แว่นกันแดด เพราะตอนใส่แว่นเราทำให้มันชาเวลาโดนแสงแต่อันนี้ไม่มี ใหม่ๆลืมไม่ใส่แว่นกันแดด ปวดหัวเลยพอหลังๆพกแว่นกันแดดอาการก็หายไปเองค่ะ
ถ้าใครคิดจะทำหรือไม่ทำ เราว่าทำแล้วคุมนะ ยิ่งถ้าทำเร็วหน่อยสัก 30 น่าจะดี(ในกรณีที่สายตาคงที่แล้วนะคะ) เพราะเดี๋ยวถ้าสายตายาวมาก็คงต้องใส่แว่นต่อยู่ดี
Along the way moment
April 2021